ทางออกคนมีรถที่กำลังจะถูกยึด

อ่านเจอในเวปบอร์ดหลายๆแห่งแล้วเห็นใจผู้บริโภคด้วยกันครับเพราะผมทราบและเข้าใจว่า คนเราเมื่อตัดสินใจซื้อรถซักคัน คงไม่มีใครอยากโดนยึดรถ คงไม่มีใครอยากโดนทวงหนี้หรอกครับ แต่เพราะบางทีด้วยความจำเป็นด้านการงาน การเงิน ที่มันไม่เป็นตามใจหวัง ควบคุมไม่ได้ จึงทำให้หลายท่านต้องประสบพบเจอกับคนที่ตามทวงหนี้ คนที่ตามมาขู่ ตามมายึดรถ

ดังนั้นจากประสบการณ์และจากการศึกษามานาน ผมจะมาบอกทางออก ข้อแนะนำ สำหรับท่านเมื่อมีพนักงานตามทวงหนี้หรือตามยึดรถ รวมทั้งพนักงานโทรทวงหนี้ที่พูดจาไม่สุภาพ พร้อมทั้งพวกที่ขู่ว่าจะยึดรถครับ พึงระลึกไว้เสมอว่า

ห้ามให้เขายึดรถไปเด็ดขาด ไม่ว่าจะค้างนานแค่ไหนถ้าท่านประสงค์จะส่งต่อ อย่าให้เขายึดรถเด็ดขาด ถ้าเขาจะมาแย่งกุญแจมาเอาที่บ้าน คุณสามารถแจ้งตำรวจ ฐานบุกรุก หรือ ยิงขู่ได้เลย ไม่มีความผิด คุณรู้หรือไม่ว่า หากเขายึดรถเราไปได้ มันจะมีค่าใช้จ่ายอีกหลายอย่างตามมา ถ้าเขาขายทอดตลาดยังไงเขาก็จะมาเคี่ยวเข็ญเอาส่วนที่เหลือจากคุณเพราะเขาอ้างว่าขายไม่ได้ราคา หรือเขาขาดทุน 

ดังนั้น ถ้าเขาจะยึดรถ จงบอกให้เขาทำเรื่องฟ้องศาลมาเลย แล้วให้เราเตรียมเงินค่าเช่าซื้อที่ค้าง เตรียมหลักฐานและเหตุผลไว้  เชื่อหรือไม่ว่า ถ้าฟ้องศาลเขาจะให้คุณจ่ายให้มันแค่ค่าเช่าซื้อ ส่วนค่าติดตามอันมหาโหดคุณไม่ได้จ่าย ค่าโน้นนี่นั่นคุณจะไม่ต้องจ่าย เช่น เขาฟ้องมา 200,000 บาท ได้จ่ายแค่ 130,000 บาท เป็นต้น ดีไม๊ละครับ ถ้าคิดว่าตัวเองจะส่งต่อได้ในอนาคตอันใกล้นี้ ห้ามให้ยึดรถไป ไม่ว่าจะเป็นรถอะไรก็ตาม เพราะเรามีแต่เสียกับเสีย ทีนี้มาดูกันครับว่าเราต้องทำไงบ้าง อันดับแรกนะครับ

1. หาหลักฐานการจ่ายเงิน ทุกครั้งที่จ่ายเงินต้องเก็บหลักฐาน ทุกครั้งให้ขอใบเสร็จด้วย ว่าเราจ่ายไปเท่าไหร่ยังไง มีรายละเอียดและค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

2. ให้ท่านอ่านสัญญาให้เข้าใจ ให้รู้ว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้าง สามารถขาดส่งได้กี่วัน

3. ต่อรองครับ อย่าให้เขายึดรถเด็ดขาด อย่าให้เขาเจอ แต่ถ้าเขาเจอแล้ว มันจะยึดรถ แจ้งตำรวจเลยครับ

4. เข้าไปติดต่อบริษัทเอง อย่าติดต่อผ่านพวกติดตามครับ สามารถต่อรองได้ เพราะเขาจ้างมาอีกทีครับ

5. ให้ขอตรวจเช็คยอดหนี้คงค้างจริง ที่ยังไม่คิดค่าติดตามต่างๆ ให้เขาแจกแจงให้ครบ

6. ย้ำครับ อย่าปล่อยให้ยึด เพราะถ้าเขายึดไปแล้ว เขาเอาไปขายทอดตลอด สุดท้ายถ้าขายได้น้อยกว่าราคาซื้อ+กำไรที่มันควรจะได้มันจะมาเรียกเก็บเราอีก คือรถกูก็ไม่ได้ขับ เงินกูยังต้องใช้มึงอีก

7. วิธีลูกทุ่งครับ เอารถไปไว้ที่อื่นก่อน มีเงินค่อยทยอยจ่ายมันเข้าไป แต่ต้องจ่ายนะครับ ห้ามโกง

8. ถ้าใครพูดจาไม่สุภาพ ข่มขู่คุกคาม อัดเสียงไว้เลยครับ แจ้งความได้ และถ้าใครประจาน หรือเอาเรื่องของเราไปบอกคนอื่นที่ไม่ใช้เรา เราก็แจ้งความได้เลยครับ หรือร้องเรียนไปที่บริษัทไปที่สื่อเพราะเรามีปัญหาไม่มีเงินขาดสภาพคล่องตกงาน ไม่ใช่จงใจไม่จ่าย

9. ถ้าให้สะใจ มันด่ามาเราด่ามันตอบเลย ถามชื่อมันด้วย นามสกุลด้วย ตามไปที่บริษัทมันเลย เพราะอะไรครับ การทวงถาม มันต้องสุภาพ มันต้องมีจิตวิทยากว่านี้ มันต้องมีทางออกให้เรา ช่วยเรา เห็นใจเขาเห็นใจเรา ถ้ามันเอาคำไม่สุภาพมาด่า นั่นแสดงว่ามันทำไม่ถูก มึงด่ามึงขู่เพื่อให้กลัว ถ้าคนมันไม่มีก็คือไม่มีครับ เพราะจริงๆเป้าหมายคือต้องการเงินจากลูกค้า พูดยังไงก็ได้ให้ได้เงิน แล้วทำไมต้องด่า  เรื่องนี้ฟ้องได้นะครับ กฎหมายคุ้มครอง

10. ต่อรองครับ ไม่มีไม่หนีไม่จ่าย ไม่ให้ยึด ต่อรองลดยอดหนี้ อย่าให้ยึดรถไป มันจะเสียเปรียบ

11. ถ้าคุณไม่มีเงินงานและไม่มีทางเลือกทางออกจริงๆ ให้คุณขายดาวน์เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนสัญญาให้คนอื่นผ่อนต่อได้นะครับ ย้ำว่า ขายดาวน์เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนสัญญาเท่านั้น ห้าม!!! ขายดาวน์โดยไม่เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนสัญญาเด็ดขาด กรณีนี้ท่านยังได้เงินดาวน์คืน ยังมีเงินไว้ใช้ แถมหมดภาระหนี้สินด้วยครับ

ในกรณีที่ใครโดนขู่โดนทวงถาม ทั้งที่ท่านค้างจ่ายค่างวดยังไม่ถึง 1 เดือน 2 เดือน หรือยังไม่ถึง 3 เดือน หรือ ค้าง  3 เดือน แต่ยังไม่เกิน 4 เดือน แต่โดนข่มขู่คุกคามทวงถามหรือด่าทอ หรือบอกว่าจะมายึดรถ หรือ ถ้าเขามาตามยึดรถเราจริงๆ ผมบอกเลยครับ อย่ายอมเด็ดขาด เพราะกฏหมายคุ้มครอง บอกเขาไปเลยว่า มายึดเลย ฉันไม่ให้ และฉันจะแจ้งความในข้อหาบุกรุกและข่มขู่คุกคาม และลักทรัพย์ด้วย และจะฟ้องกลับ เพราะคุณไม่มีสิทธิตามกฏหมาย ซึ่งถ้าเขามาจริง แจ้งตำรวจมาจับเลยครับ ถ่ายคลิปเก็บไว้เป็นหลักฐานด้วย  ที่สำคัญ อย่าให้เขาเอารถไปได้เด็ดขาด...ถ้าคุณยังจำเป็นต้องใช้งานและประสงค์จะส่งงวดต่อ ถ้าคุณจ่ายค่างวดรถไปมากแล้ว

อ่านต่ออีกนิดครับ....และถึงแม้ว่าคุณจะค้างจ่ายค่างวดมากกว่า 4 เดือน เกินกำหนดที่กฎหมายคุ้มครอง แต่ถ้าท่านยังไม่มีงานและยังไม่เงินพอจ่าย โดยเฉพาะถ้าท่านยังจำเป็นต้องใช้รถในการทำเงินทำงานและใช้เดินทางสร้างงานเงิน แถมถ้าท่านจ่ายค่างวดมาเยอะแล้ว จ่ายมาหลายปีแล้ว จ่ายเงินดาวน์มากด้วย อย่ายอมให้เขายึดรถไปเด็ดขาดครับ บอกให้เขาฟ้องเลยครับ ศาลท่านจะตัดสินเอง ศาลท่านเมตตาแน่ๆ ท่านเข้าใจครับ วิกฤติชีวิตคน ไม่มีใครอยากเดินมาถึงจุดนี้ ที่ตกงาน เงินไม่มี มีปัญหาชีวิต ถ้าเจอเคสนี้พูดดีๆครับ แล้วบอกให้เขาทำเรื่องฟ้องศาลมาเลย แล้วคุณก็ไปตามนัดนะครับ ถ้าเขาโทรมานัดไกล่เกลี่ยก็ไปครับ อย่าปล่อยโอกาส เมื่อไปขึ้นศาล....ถ้าศาลท่านถาม หรือ ถึงท่านไม่ถาม แต่ถึงเวลาต้องพูด ขอให้ท่านพูดพร้อมแสดงหลักฐาน..... บอกและพูดความจริงและความจำเป็นของคุณไปครับ ไม่ต้องกลัวครับ เชื่อเถอะว่า ผลที่ได้ออกมา คุณจะต้องขอบคุณศาล และคุณจะต้องขอบคุณบทความของผม คุณต้องขอบคุณอีกหลายๆท่านที่แชร์ประสบการณ์ตรงและแนะนำทางออกดีๆใต้บทความนี้แน่นอน ด้วยรักและหวังดีจากใจครับ