อีก 1 ทางออกทางเลือกถ้ากำลังจะโดนยึดรถ

สุดท้าย มีอีกหนึ่งทางออกและทางเลือกสำหรับท่านที่กำลังจะโดนยึดรถ คือ ประกาศ!ขายดาวน์โดยการเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนสัญญาให้คนอื่นเอาไปผ่อนต่อเท่านั้น ทางเลือกทางออกทางนี้ เหมาะสำหรับท่านใดที่อยากหมดปัญหาและอยากปลดภาระ โดยเฉพาะถ้าท่านคิดว่าตัวเองและครอบครัวจะผ่อนต่อไม่ได้ไม่ไหวแล้ว อย่ายอมให้เขายึดรถไป แต่ให้ท่านประกาศขายดาวน์ เพื่อหาคนที่เขาอยากได้รถจริงๆไม่ว่าจะเป็นญาติ หรือเพื่อน หรือคนอื่นๆที่เขาอยากได้รถและพร้อมทำสัญญา โดยบุคคลนั้นต้องมีคุณสมบัติที่สามารถทำเรื่องเปลี่ยนสัญญากับธนาคารหรือไฟแนนซ์เพื่อผ่อนต่อได้ คือ 
    • ต้องไม่ติดเครดิตบูโร 
    • ต้องมีเงินจ่ายค่าธรรมเนียมและค่าดำเนินการ 
    •  ต้องมีเงินจ่ายเงินดาวน์ให้เรา 
    • ต้องมีงานมีเงินเดือนมั่นคงชัดเจน 
    •  ต้องมีสลิปเงินเดือน ต้องมีสเตทเม้นท์ธนาคาร 3-6 เดือน 
คือ ถ้าเอกสารพร้อม ผ่านแน่นอนครับ ดังนั้น ถ้ามีคนอยากได้ ถ้าคุณหาเจอคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนเช่นนี้  ให้คุณและเขารีบติดต่อไปที่ไฟแนนซ์ได้ทันทีเลยครับ แล้วแจ้งความจำนงไป เจ้าหน้าที่จะรับเรื่องและบอกขั้นตอนและแจ้งค่าใช้จ่ายและเอกสารที่ต้องใช้ให้ท่านได้ ถ้าเจ้าหน้าที่เขาไม่บอก คุณก็ถามเองได้นะครับ รอไม่นาน ทำไม่ยาก ถ้าเอกสารพร้อม ถ้าคุณสมบัติของผู้ซื้อต่อมีครบถ้วนตามที่กล่าวมา

คำเตือน!!! ย้ำๆนะครับ ให้ขายดาวน์โดยการเปลี่ยนสัญญาเท่านั้น!!! จงอย่าเชื่อใจใครง่ายๆ!!!! จงอย่าโลภมากอย่าเสียดายเงินหรือรถเด็ดขาดในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ ถ้าท่านอยากหลุดจากปัญหาอย่าอยากขายดาวน์แพงๆ เพราะมันจะขายยาก ใช้เวลานาน เสียเวลา และคุณจะตกเป็นเหยื่อเสี่ยงถูกหลอกถูกโกงได้ จงระวัง!!! ถ้ามีใครเสนอเงินซื้อดาวน์สูงๆให้คุณ ##เพื่อแลกกับการที่ไม่ต้องรอและไม่ต้องยุ่งยากวุ่นวายทำเรื่องเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนสัญญากับไฟแนนซ์หรือธนาคาร## ห้ามเชื่อเด็ดขาด!!! อย่ารับข้อตกลงนั้น!!! ท่านต้องเชื่อผม ท่านต้องยืนยันไปว่าจะขายดาวน์โดยการเปลี่ยนสัญญาเท่านั้น!!! และถ้าธนาคารยังทำเรื่องเปลี่ยนสัญญาไม่เสร็จสิ้น จงอย่าพึ่งให้ใครเอารถไปใช้นะครับ ถ้าเงินยังไม่จ่าย ถ้าทำเรื่องเปลี่ยนสัญญาไม่เสร็จสิ้น และถึงแม้จะจ่ายเงินครบแล้ว ก็อย่าพึ่งให้เขาเอาไป จนกว่าจะแน่ใจว่าชื่อของคุณได้หลุดจากสัญญาซื้อขายรถแล้วเท่านั้น

นี้คือ ทางออกที่ดีที่สุดปลอดภัยที่สุด ไม่ต้องเสี่ยง ถ้าท่านผ่อนต่อไม่ไหวแล้ว คือ ท่านต้องขายดาวน์ในราคาไม่แพงโดยการต้องเปลี่ยนสัญญาเท่านั้น อย่าขายดาวน์ให้ใครเอารถไปใช้โดยไม่มีการเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนสัญญาให้แล้วเสร็จก่อนเด็ดขาด แม้จะเป็นญาติหรือเพื่อนสนิทกันแค่ไหนก็ตาม โดยเฉพาะคนอื่นๆ เพราะถ้ายังเป็นชื่อคุณ ถ้าวันใดเขาไม่จ่ายค่างวด ถ้ารถเกิดอุบัติเหตุ ถ้าเขาเอารถไปชนคนหรือทำผิดกฎหมาย หรือ ถ้ารถหายขึ้นมาคุณต้องเป็นคนรับผิดชอบนะ คุณจะกลายเป็นคนผิด และตกเป็นจำเลยร่วม เพราะรถคันนี้ยังเป็นชื่อของคุณ แม้จะขายดาวน์ให้เขาไปแล้วก็ตาม สุดท้าย ถ้าท่านไม่เชื่อผม แทนที่จะดี ชีวิตคุณกลับจะแย่ลง เพราะอาจจะมีหนี้สินมีคดีความหนักกว่าเดิมจากปัญหาเหล่านี้ได้ครับ เพราะฉะนั้น อย่าให้ใครยึดรถ อย่าขายดาวน์ให้ใครโดยไม่เปลี่ยนสัญญาเด็ดขาดแม้จะสนิทชิดเชื้อหรือน่าไว้ใจขนาดไหนก็ตาม ด้วยรักและหวังดีครับ 

ประสบการณ์ตรงโดนยึดรถ 3 ช่วยท่านได้

ขอเล่าประสบการณ์ตรงคับ ของผมขาดส่ง 9 งวด ไฟแนนซ์ส่งเจ้าหน้าที่มาตามรถ ครั้งแรกเป็นเจ้าหน้าที่ขี่มอไซค์มา ผมเชิญเข้าบ้านเลยครับ เจ้าหน้าที่แจ้งให้ผมชำระเข้าไป 70,000 บาท ก่อนสิ้นเดือนซึ่งวันที่มาแจ้งนั้นเหลือเวลาแค่ 5 วัน ผมเลยแจ้งว่าหาไม่ทันครับ งั้นขอไปไกล่เกลี่ยที่ศาลดีกว่า (ผมกับเจ้าหน้าที่คุยกันดีมากครับ) ก่อนเจ้าหน้าที่จะกลับผมเลยบอกเจ้าหน้าที่ไปว่า ถ้าติดปัญหาอะไรให้โทรติดต่อมาได้เลยผมไม่มีปัญหา 

หลังจากนั้นไปประมาณ 2 สัปดาห์มีเจ้าหน้าทีมาใหม่ขับรถยนต์มาโดยที่ไม่ได้มีการแจ้งหรือแสดงตัวใดๆ ขับมาปาดหน้ารถผมไม่ยอมให้เข้าซอยบ้าน ผมก็ตกใจถอยออกจากหมู่บ้าน (ไม่ได้เจตนาหนีครับ ถามว่าอยู่ดีๆมีคนมาปาดหน้าไม่ยอมให้เข้าซอยบ้านตัวเองเป็นคุณตกใจมั้ยครับ เอกสารก็ไม่ได้แสดง) ผมขับออกจากหมู่บ้านมาก็ยังเห็นรถคนเดิมขับตามมาผมเลยขับไป สน.เพราะเกรงจะได้รับอันตราย ระหว่างทางเจ้าหน้าที่(ซึ่งตอนนั้นผมยังไม่รู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่)ขับมาปาดหน้าอีกครั้งบนถนน ผมก็พยายามแซงครับแต่เค้าก็ปาดไม่ให้แซง ผมเลยจอดรถแล้วโทรแจ้งตำรวจ (ชื่มชมตำรวจ191 และสภ.สาขลาครับ แม้จบเรื่องแล้วยังติดต่อเข้ามาสอบถามความคืบหน้า) ตำรวจ191 ประสานงานสภ.เจ้าของพื้นที่ให้ติดต่อผมได้ไวมากพร้อมกับแนะนำให้ผมอยู่ในรถ ห้ามลงจากรถเด็ดขาดซึ่งผมปฏิบัติตามครับ เพราะผมไม่รู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากไฟแนนซ์เกรงจะได้รับอันตราย จนเจ้าหน้าที่เริ่มมาเคาะกระจกและตะโกนว่าขอคุยกันก่อนแล้วก็แจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากไฟแนนซ์ ผมไม่แน่ใจขอดูเอกสารครับ(อันนี้แนะนำเลยครับ ขอดูเอกสารยืนยันการเป็นเจ้าหน้าที่ ใบรับมอบอำนาจจากไฟแนนซ์)ซึ่งเค้าก็หยิบมาให้ดู ผมเลยลดกระจกลงให้เค้าพอที่จะยื่นเอกสารเข้ามาเพื่ออ่านรายละเอียดได้ พออ่านเสร็จผมยื่นกลับให้เค้า ผมก็ลดกระจกลงอีกเพื่อจะคุย เจ้าหน้าที่พูดมาทันทีเลยครับว่าผมหนีเค้า ผมเลยตอบกลับไปว่า ผมไม่ได้หนีแต่คุณลองคิดเอาว่าถ้าคุณกำลังจะเลี้ยวเข้าบ้านแล้วมีคนขับรถมาปาดหน้าไม่ให้เข้าบ้านแถมขับตามมาปาดคุณอีก คุณตกใจมั้ย เจ้าหน้าที่ก็เงียบไปพักนึงก็เจรจากันเหมือนเดิมให้ผมจ่ายเข้าไป 70,000 บาท ผมเลยบอกว่างั้นรอไปไกล่เกลี่ยดีกว่าเพราะผมไม่มีหรอก 70,000 บาท เจ้าหน้าที่ก็พยายามจะเอารถให้ได้ครับแต่ผมไม่ยอม สุดท้ายผมเลยถามว่าพอมีช่องทางอะไรบ้างเจ้าหน้าที่แนะนำให้ผมออกใหม่โดยที่เค้าจะเป็นคนแนะนำให้ผมเลยขอเบอร์ติดต่อเค้าเพื่อจะออกใหม่เจ้าหน้าที่ถึงยอมกลับครับ 

หลังจากนั้นอีก1สัปดาห์หมายมาครับนัดวันที่ 7/5/2561 แต่มีตรายางประทับมาว่าหากประสงค์จะไกล่เกลี่ยให้ไปที่ศาลในวันที่ 28/3/2561 ผมเลยติดต่อไปที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยที่ศาล(ตามเบอร์ที่ประทับตรายางมา)เลยครับแล้วแจ้งยืนยันจะไปวันที่ 28/3/2561 เพื่อไกล่เกลี่ย พร้อมกับโทรไปที่ไฟแนนซ์เพื่อยืนยันจะไกล่เกลี่ยครับ วันที่ 28/3/2561 ตามเวลานัดไปถึงโชคดีมากครับทนายฝ่ายโจทย์ดีมากครับถามคำแรกเลยว่ายังใช้รถอยู่มั้ย ผมตอบเลยว่ายังใช้อยู่ครับ ทนายถามพูดกลับมาถ้าอยากผ่อนต่อให้ผ่อนเท่าเดิมแต่ไม่น้อยว่าเดิม เริ่มผ่อนงวดแรกวันที่ 5/6/2561 แต่ศาลท่านเห็นว่ากลัวจะเกิดปัญหาล่าช้า ให้ทนายขยับไปอีก2วันเป็นวันที่ 7/6/2561 ผมอึ้งเลยครับศาลเห็นใจแถมทนายพูดเหมือนเค้าเป็นทนายผมไม่ได้เป็นทนายของโจทย์เลยผมเลยถามต่อว่าหลังจากเราตกลงประนีประนอมได้แล้วเกิดทีมยึดมาอีกผมต้องทำยังไง ทนายแจ้งว่าเอาสัญญาประนีประนอมให้ดูได้เลย 

ผมอ่านรายละเอียดในสัญญาทุกบรรทัด (ถ้าสงสัยถามทนายได้เลยนะครับ ติดขัดตรงไหนให้แจ้งทนายกับศาลท่านได้เลย ตรงนั้น) ผมอ่านแล้วพอใจ ผมไม่เสียเปรียบมากเลยตกลงเซ็นครับพอตกลงจะเซ็นต์เอกสาร ทนายได้หันไปถามศาลอีกว่า ทนายขอลดค่าทนายที่ระบุได้หรือไม่ ศาลท่านก็ยินยอมให้ลดได้ ทนายก็ดำเนินการแก้ไขค่าใช้จ่ายในเอกสารประนีประนอมพร้อมเซ็นต์กำกับ ผมกับทนายและศาลเซ็นต์เอกสารสัญญาประนีนอมและรายงานของศาลเรียบร้อย ทนายก็ให้สัญญาประนีประนอมกลับมา 1 ชุด เคลียร์จบ รถผมก็ไม่ถูกยึด ผมผ่อนต่อได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยครับ

ต้องขอบคุณคุณ Assawin Butchat ที่นำเรื่องราวประสบการณ์ตรงมาแชร์ให้เพื่อนๆได้ทราบจะได้มีความรู้และมีลู่ทางในการแก้ปัญหา พร้อมช่วยเหลือตนเอง ในกรณีที่ต้องการผ่อนต่อเพื่อไม่ให้เสียเงินและเสียเปรียบพ่อค้าและพนักงานทวงหนี้ ซึ่งเป็นการรักษาสิทธิประโยชน์ของผู้บริโภคให้ได้รับความยุติธรรมที่สุด โดยเฉพาะหลายๆท่านที่จ่ายเงินไปแล้วมากมาย และอีกไม่นายก็จะผ่อนหมดอยู่แล้ว แต่ก็มามีปัญหาตกงานหรือขาดสภาพคล่องซะก่อน เห็นใจครับ ขอให้ทุกคนทุกท่านแก้ไขปัญหาชีวิตไปได้อย่างดีทุกคน

ทางออก ถ้าท่านกำลังจะโดนยึดรถ

ข้อความด้านล่างมีประโยชน์มาก ถ้าท่านกำลังเดือนร้อน ควรอ่านดีๆ

  • จงอย่าตกใจ ถ้าท่านโดนติดตามรถยึดรถ อย่ายอม บอกให้เขาส่งฟ้องเลย เพราะ........
  • ถ้าหากท่านยังจำเป็นต้องใช้รถเพื่อสร้างเงินงานและรายได้ ถ้าถึงชั้นศาล ศาลท่านเข้าใจแน่นอน
  • ถ้าท่านมีจิตใจซื่อตรงไม่ได้คิคคดทรยศหรือโกงใครเขา ถ้าท่านจำเป็นต้องใช้รถ ถ้าท่านคิดว่าอนาคตตนเองมีความรับผิดชอบและมีความสามารถจ่ายได้ อย่าให้เขายึด อย่าทำให้ใครเดือดร้อน โดยเฉพาะผู้ค้ำ ผู้ขายและตัวเอง เพราะฉะนั้น ทางออก คือ อันดับแรก อย่าให้เขายึดรถไป ต่อมาท่านก็ควรบอก ควรคุยให้ผู้ค้ำ ผู้ขายเข้าใจและไกล่เกลี่ยเพื่อหาทางช่วย แล้วก็จงรีบลุกขึ้นสู้ รีบหางานและหาเงินทะยอยใช้คืนเขา
  • ขอท่านจงอย่ากลัวอย่างตกใจ เพราะถ้าคุณไม่ยินยอมให้ยึด ถ้าคุณไม่เซ็นต์เอกสารให้ ก็ไม่มีใครสามารถยึดรถไปได้ กฏหมายคุ้มครองท่านแน่นอน โดยเฉพาะถ้าอยู่ในบ้านและที่อยู่อาศัยของท่าน หรือแม้แต่ในที่สาธารณะ คุณสามารถแจ้งความกลับและฟ้องกลับได้เลย ถ้าผู้ติดตามทวงถามพูดไม่ดีพูดไม่เพราะ ถ้าเขาข่มขู่คุกคาม ถ้าเขาทำให้คุณได้รับความอับอายต่อบุคคลที่สาม จนมีผลต่อการงานและความเป็นอยู่
  • ที่สำคัญเพราะ ผมและคุณๆทุกคนที่กำลังเดือดร้อนต่างเข้าใจว่า ไม่มีใครรู้อนาคตว่ามันจะเป็นแบบนี้...และส่วนใหญ่ไม่มีใครคิดคดโกงใคร และไม่มีใครอยากมีหนี้สินและตกงานหรือผิดพลาดเช่นนี้ ที่สำคัญ เงินทุกบาทที่พวกเราท่านจ่ายค่างวดไปก่อนหน้านั้น มันมีค่านะ เจ้าหนี้และผู้ติดตาม ไม่ควรถือวิสาสะแค่เพราะเราขาดการผ่อนจ่ายไปเพียงไม่นาน แล้วคิดจะมาข่มขู่ข่มเหงยึดรถยนต์ทำกินเขาไปง่ายๆ ทั้งที่บางคนจ่ายไปแล้วเป็นแสนๆแถมจ่ายมาแล้วหลายปี 
  • ผมยังยืนยันว่า ถ้าคุณจำเป็นต้องใช้รถในการทำมาหากิน และโดยเฉพาะท่านใดที่จ่ายค่างวดรถและค่าเงินดาวน์จ่ายไปมากมายและหลายปีแล้ว และถ้าคุณคิดว่าอนาคตอันใกล้ ถ้าคุณมีงาน คุณจะสามารถจ่ายได้ จงอย่าปล่อยให้เขายึดรถไป เก็ดขาด อย่ายอม เพราะ..........
  • เพราะ.....นอกจากไม่มีอะไรดีขึ้น ถ้าคุณปล่อยให้เขายึดรถไป คุณยังต้องจ่ายค่าปรับและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกมากมายทั้งที่ไม่จำเป็น และนอกจากคุณจะเสียเครดิตคุณแล้ว อีกไม่นานคุณยังต้องเสียเงินให้เขาเพิ่มอีกเพราะเขาจะอ้างว่ายึดไปแล้วขายได้น้อย ไม่พอหนี้ เขามีส่วนต่าง (เอาไปขายต่อถูกๆ)  แถมต่อมาคุณก็ยังต้องโดนติดตามทวงเงินส่วนที่ค้างอีก ทั้งที่รถคันนี้คุณก็ไม่ได้ใช้งานแล้ว แถมยังต้องมาเป็นหนี้สินค้างจ่ายอีก  
  • อยากให้ทุกๆท่านทราบว่า ผู้ติดตามทวงถามและเจ้าหนี้จะสามารถยึดรถคุณได้ ก็ต่อเมื่อ คุณยินยอม และคุณตัองผ่านการไปศาลแล้ว 3 นัด #และที่สำคัญศาลต้องมีคำสั่งเท่านั้น เขาถึงจะยึดรถคุณได้ และอยากให้ท่านทราบว่า จงอย่ากลัวการขึ้นศาล ถ้าคุณมีความจำเป็นและมีเจตนาดีเพราะเราคือผู้บริโภค เราเสียเปรียบพ่อค้า ศาลท่านเข้าใจ ท่านใจดี ที่สำคัญท่านควรไปศาล เพราะทุกครั้งมันมีผลสำคัญ และทุกการไกล่เกลี่ยท่านควรตั้งใจฟังและอ่านให้ดีๆ เพราะมักจะเป็นผลดีช่วยเรา ซึ่งเป็นผู้บริโภคมากกว่าบริษัทหรือพ่อค้า 
  • จงอย่าลืมว่า ท่านคือผู้บริโภค และท่านจ่ายเงินดาวน์คุณจ่ายค่าจองค่างวดและค่าใช้จ่ายอีก....จิปาถะให้เขาและพ่อค้าไปมากแล้ว แม้รถจะยังไม่ใช่ของท่าน แต่ก็เป็นของท่านแล้วส่วนนึง จงอย่าลืมว่า ท่านซื้อตอนมีเงินมีงาน ท่านไม่รู้อนาคตหรอกว่า ท่านจะตกงาน หรือมีปัญหาการเงินการงานเกิด จงย้ำว่า ท่านแค่ยังไม่มีเงินจ่าย เพราะยังไม่มีเงินงาน ท่านไม่มีเจตนาหนีหรือคดโกง  แต่ท่านอยากขอแค่ความเข้าใจที่ถูกต้อง ท่านต้องการแค่เวลากับโอกาส.... ที่สำคัญ คือ ท่านจำเป็นต้องใช้รถในการทำงานหาเงินและใช้ในการเดินทางของตนเองและครอบครัว นี่คือสิ่งที่ท่านต้องบอกกับศาล ตำรวจ และคนอื่นๆให้เข้าใจ แล้วจงมีความรับผิดชอบ ถ้าได้รับโอกาส นั่น คือทางออกที่ดี
   

ประสบการณ์ตรงโดนยึดรถ 2 ช่วยท่านได้

**สำคัญนะ ถ้าเพื่อนๆต้องการจะใช้รถต่อ ห้ามให้เค้านำรถไปจากเราโดยเด็ดขาด มี 1 งวดก็จ่าย1 มี 2 งวดก็จ่าย ถ้าเรายืนหยัดยืนยันว่าไม่ให้ยึด เค้าก็ยึดไม่ได้ ไม่มีสิทธิ์ยึดไป แจ้งตำรวจได้เลย เรียกทนายความมาช่วยได้ ถ้าคุณไม่ยอมและไม่เซ็นต์เอกสารยินยอมเอง เขาก็ผิด ทำอะไรไม่ได้ อย่ายอม ไม่งั้นเพื่อนๆจะเป็นเช่นน้องท่านนี้ สงสารและเสียดายมาก เพราะน้องที่เสียเงินไปแล้วตั้ง 4 ปี เหลืออีกแค่ 2 ปี รถจะเป็นของน้องเต็ม 100 น่าสงสารมาก

**ประสบการณ์ที่อยากจะแชร์ให้เพื่อนได้ระวังไว้คะ**
เรื่องมีอยู่ว่า เราใช้บริการเช่าซื้อ รถยนต์ ของธนาคารธนชาติ เข้าปีที่ 4 แต่ด้วยที่ว่าเราตกงาน จึงค้างค่างวดรถยนต์ โดยที่ใช้วิธีการ คือ เข้า 3 งวด จ่าย 1 งวด บางเดือน ก็จะโดนค่าติดตามจากฝ่ายติดตามอีกต่างหากประมาณ1,600 บาท ถ้าเราไม่จ่ายให้เค้าอ้างว่าเงินค่างวดที่จ่ายเข้าไป เงินจะ ค้างอยู่ในระบบ เราจึงยอมจ่ายค่าติดตาม จนมาเดือนล่าสุด เราค้างค่างวดครบ4เดือน เราหมุนเงินไม่ทันจริงๆจึงยังไม่ได้ไปจ่าย พอค้างครบ 4 เดือน กับอีก 5 วัน มีชายฉกรรจ์ 3 คน มารอหน้าบ้านเวลาประมาณ 6.30น(เช้า).อ้างว่ามาจากธนาคารธนชาติจะมายึดรถเรา เราจึงขอผลัดเค้าว่าขอเวลาอีก2-3วันได้มั๊ย เดี๋ยวจะรีบไปจ่ายให้ เค้าจึงให้ขอเสนอเรามาว่า ตอนนี้ธนาคารมีนโยบาย ให้ลูกค้าปรับโครงสร้างหนี้ พี่สนใจไหม เราเห็นเค้าพูดจาดี เราก็สนใจ เค้าจึงบอกว่า เดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่ ฝ่ายปรับโครงสร้างหนี้ เขาติดต่อมา เราก็ยังไม่เอะใจ ยังชมว่า เค้าพูดง่ายจังพอวันรุ่งขึ้น มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงโทรมา เสนอให้เราปรับโครงสร้างหนี้ ให้ผ่อนถูกกว่าเดิม ประมาณ 2-3พันบาท แต่ยืดอายุปีออกไปอีก เค้าอ้างว่า ให้ส่วนที่ค้างชำระทั้งหมดจะถูกเคลียร์ออกจากระบบเลย แล้วเริ่มนับหนึ่งใหม่ เราจึงสนใจขอเสนอจากธนาคาร แต่เค้า มีเงื่อนไขว่า จะต้องนำรถมาจอดตรวจสภาพ เดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่ มารับรถ ใช้เวลาประมาณ 1-2สัปดาห์ จะโทรแจ้งลูกค้า นำรถกลับ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั่งสิ้น เราจึงตอบตกลง ให้เค้ามารับรถไป



พอวันต่อมา ชายฉกรรจ์ 2คน ก็มา มีเอกสารให้เราเซ็นต์ บอกว่าจะมานำรถไปตรวจสภาพ เพื่อทำการปรับโครงสร้างหนี้ เค้าตรวจอุปกรณ์ที่รถเรา เช็คไมล์ แล้วให้เราเซ็นต์รับรองในเอกสาร ซึ่งตอนเซ็นต์เอกสารเรายังไม่ทราบเลย ว่านั้นคือการ ยอมให้เค้ายึดรถ โดยชอบด้วยกฏหมาย แต่ใน ความเข้าใจของเรา คือตามที่เค้าเสนอให้เรา แล้วเค้าก็นำรถไปจากเรา ทันที 2วันถัดมา เราโทรไปหาเจ้าหน้าที่ผู้หญิงที่ ยื่นข้อเสนอมาให้เรา แต่กลับติดต่อไม่ได้เลย และผู้ชายที่มายึดรถ ก็ติดต่อไม่ได้เช่นกัน แต่กลับมีเจ้าหน้าที่จาก 1770 โทรมา แจ้งเราว่า สถานะรถเราอยู่ ระหว่างรอการจำหน่าย เราอึ้งมาก น้ำตาไหล ทำอะไรไม่ถูก งงมาก สับสนไปหมด เค้าแจ้งว่า ถ้าต้องการนำรถกลับไปใช้งานต่อ ต้องเคลียค่าใช้จ่ายทั้งหมด 41,000 บาท เราขาอ่อนเลยคะ เพราะเราจะไปหาจากไหน ค่างวดรถเราเดือนละ 6,000 ค้าง4เดือนก็ 24,000 แต่มันมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นจากการที่เค้าได้นำรถเราไป ทั้งค่าจ้าง ติดตาม ค่าทีมยึด เค่าให้เวลา 7 วัน ในการไถ่ถอนรถ ถ้าเกินจากนั้น รถจะถูกประเมินขายทอดตลาดทันที เราก็ต้องยอมจำนนคะ เพราะเราจะไปหาจากไหน มาภายใน 7 วัน วันที่ 9 พค. รถเราจะถูดขายทอดตลาดแล้ว ทั้งๆที่เราผ่อนมาได้ 4ปี เหลือค้างไฟแนนอีกแค่ 2 ปีแต่มาถูกยึดไปง่ายๆจากมือเราเอง น้ำตาไหลเลยคะ ไม่มีรถไปส่งลูกที่โรงเรียนแล้วหรือยังไม่ทันได้ตั่งหลักเลย ขอบคุณคะที่อ่านจนจบ นี่คือประสบการณ์ที่เจ็บปวดสุดๆคะ 
**ข้อสำคัญนะคะ ถ้าเพื่อนๆต้องการจะใช้รถต่อ ห้ามให้เค้านำรถไปจากเราโดยเด็ดขาด มี1งวดก็จ่าย1 มี2 ก็จ่าย 2 ถ้าเรายืนหยัดว่าเราไม่ให้ เค้าก็ยึดไม่ได้ ถ้าเราไม่เซ็นต์เอกสารยินยอมเอง เขาก็ผิดเต็ม


ประสบการณ์ตรงโดนยึดรถ 1 ช่วยท่านได้

  • จะเล่าประสบการณ์ตรงให้ฟังค่ะ เพิ่งไปศาลมาเมื่อวาน เรากู้ของกรุงศรีฯ ราว4แสนกว่า ส่งมา 6 งวดเจอมรสุม เลยขาดส่งไป 10 เดือน ที่นี่ก้อมีพวกติดตามโทรมาทวงจะต้องยึดรถ มาถึงบ้านด้วยนะคะ แต่ดีที่ว่าเปิดดูในเน็ตบ้าง ถามคนอื่นๆบ้าง ก้อได้คำตอบว่า อย่าให้รถไป เพราะถ้าให้รถไป. หลังจากที่เขาเอารถไปขายทอดตลาดเราต้องจ่ายส่วนต่างที่ไม่สามารถต่อรองได้เลย เขาก้อโทรขู่อยู่เรื่อยๆ แต่เราก้อว่ารอหมายศาลอย่างเดียว ตอนนั้นคิดแค่ว่า คืนรถและขอลดหย่อนส่วนต่าง.พอหมายศาลมาเครียดมาก คือเสียดายรถและให้รถไปแล้วไม่รู้ต้องจ่ายไปอีกเท่าไร เชื่อไหมว่า ศาลนัด 19 มิถุนา. 15 มิถุนา เขายังโทรมาจะขอรถ ว่าจะถอนฟ้องมั่งแหละ แต่ทางออกที่คิดได้ตอนนั้นคือ ว่าจะลองต่อรองดูในการไกล่เกลี่ยที่ศาลว่า ถ้าขอจ่ายที่ค้าง 10 งวดที่ค้างแล้วที่เหลือผ่อนต่อได้ไหม แต่ในใจฝ่อเต็มทีว่า น่าจะไม่ได้แน่ ต้องเสียรถแน่ๆ พอไปถึงศาลก้อไปห้องไกล่เกลี่ย เจอทนายฝ่ายโจทก์ เหมือนถูกหวยเลยค่ะ เขาเสนอว่า 19 กรกฎานี้ พี่จ่ายมา1 หมื่น ต่อไปทุกวันที่19 พี่จ่ายค่างวดไม่น้อยกว่า 6พัน (หมายถึง.มีมากจ่ายมาก )ไป36 งวด ถ้าถึงงวดที่36 หนี้เหลือเท่าไรก้จ่ายให้ครบ เป็นอันจบกัน มันง่ายจนแฟนว่า ถูกหลอกเปล่าวะ รถก้อยังเป็นของเรา อันนี้เล่ามาให้ผู้ที่กำลังทุกข์ใจ เรื่องรถจะถูกยึด ถ้าเราไปตามขั้นตอน อย่าตกใจกับพวกติดตามรถ เพราะถามที่ศาลมา ว่าจะยึดได้ ตัองไปศาลอีก 3 นัด ต้องศาลสั่งถึงจะยึดรถได้ และการไกล่เกลี่ยช่วยเราได้มากที่สุด

  •  ข้อความด้านล่าง มีประโยชน์มาก ถ้าท่านกำลังเดือนร้อน ท่านควรอ่านดีๆ

    • จงอย่าตกใจ ถ้าท่านโดนติดตามรถยึดรถ อย่ายอม บอกให้เขาส่งฟ้องเลย เพราะ.....
    • ถ้าหากท่านยังจำเป็นต้องใช้รถเพื่อสร้างเงินงานและรายได้ ถ้าถึงชั้นศาล ศาลท่านเข้าใจ
    • ถ้าท่านมีจิตใจซื่อตรงไม่ได้คิคคดทรยศหรือโกงใครเขา ถ้าท่านจำเป็นต้องใช้รถ ถ้าท่านคิดว่าอนาคตตนเองมีความรับผิดชอบและมีความสามารถจ่ายได้ อย่าให้เขายึด อย่าทำให้ใครเดือดร้อน โดยเฉพาะผู้ค้ำ ผู้ขาย และตัวเอง เพราะฉะนั้น ทางออก คือ ท่านควรบอก ควรคุยให้เขาเข้าใจและไกล่เกลี่ยเพื่อหาทางช่วย (แต่ยอมยอมให้ใครยึดรถไป) แล้วก็จงรีบลุกขึ้นสู้ รีบหางานและหาเงินทะยอยใช้คืนเขา
    • ขอท่านจงอย่ากลัวอย่างตกใจ เพราะถ้าคุณไม่ยินยอม ก็ไม่มีใครสามรถยึดรถไปได้ กฏหมายคุ้มครองท่านแน่นอน โดยเฉพาะถ้าอยู่ในบ้านของท่าน หรือแม้แต่ในที่สาธารณะ คุณสามารถแจ้งความกลับและฟ้องกลับได้เลย ถ้าผู้ติดตามทวงถามพูดไม่ดีพูดไม่เพราะ ถ้าเขาข่มขู่คุกคาม ถ้าเขาทำให้คุณได้รับความอับอายกับบุคคลที่สาม จนมีผลต่อการงานและความเป็นอยู่
    • ที่สำคัญเพราะ ผมและคุณๆทุกคนที่กำลังเดือดร้อนต่างเข้าใจว่า ไม่มีใครรู้อนาคตว่ามันจะเป็นแบบนี้ และส่วนใหญ่ไม่มีใครคิดคดโกงใคร และไม่มีใครอยากมีหนี้สินและตกงานหรือผิดพลาดเช่นนี้ ที่สำคัญ เงินทุกบาทที่พวกเราจ่ายค่างวดไปก่อนหน้านั้น มันมีค่านะ เจ้าหนี้และผู้ติดตาม ไม่ควรถือวิสาสะแค่เพราะเราขาดการผ่อนจ่ายไปเพียงไม่นาน แล้วคิดจะมาข่มขู่ข่มเหงยึดรถยนต์ทำกินเขา ที่บางคนจ่ายไปแล้วเป็นแสนๆ 
    • ผมยังยืนยันว่า ถ้าคุณจำเป็นต้องใช้รถในการทำมาหากิน และโดยเฉพาะท่านใดที่จ่ายค่างวดรถและค่าเงินดาวน์จ่ายไปมากมายแล้ว และถ้าคุณคิดว่าอนาคตอันใกล้ ถ้าคุณมีงาน คุณจะสามารถจ่ายได้ จงอย่าปล่อยให้เขายึดรถไป เพราะ..........
    • เพราะ.....ถ้าคุณปล่อยให้เขายึดรถไป นอกจากคุณต้องจ่ายปรับและค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกมากมายแล้วนอกจากคุณจะเสียเครดิตคุณแล้ว อีกไม่นานคุณยังต้องเสียเงินให้เขาเพิ่ม แถมยังโดนติดตามทวงเงินส่วนที่ค้างอีก และส่วนมากยังต้องมีหนี้ค้างจ่ายด้วย ทั้งที่ รถก็ไม่ได้ใช้ แถมยังต้องมาเป็นหนี้ เพราะเขาอ้างว่าขายขาดทุน เขามีส่วนต่าง (เอาไปขายต่อถูกๆ) 
    • อยากให้ทุกๆท่านทราบว่า ผู้ติดตามทวงถามและเจ้าหนี้จะสามารถยึดรถคุณได้ ก็ต่อเมื่อ คุณยินยอม และคุณตัองผ่านการไปศาลแล้ว 3 นัด #และที่สำคัญศาลต้องมีคำสั่งเท่านั้น เขาถึงจะยึดรถคุณได้ และอยากให้ท่านทราบว่า จงอย่ากลัวการขึ้นศาล ถ้าคุณมีความจำเป็นและมีเจตนาดีเพราะเราคือผู้บริโภค เราเสียเปรียบพ่อค้า ศาลท่านเข้าใจ ท่านใจดี ที่สำคัญท่านควรไปศาล เพราะทุกครั้งมันมีผลสำคัญ และทุกการไกล่เกลี่ยท่านควรตั้งใจฟัง เพราะมักจะเป็นผลดีช่วยเรา ซึ่งเป็นผู้บริโภคมากกว่าบริษัทหรือพ่อค้า 
    • จงอย่าลืมว่า ท่านคือผู้บริโภค และท่านจ่ายเงินดาวน์คุณจ่ายค่าจองค่างวดและค่าใช้จ่ายอีก....จิปาถะให้เขาและพ่อค้าไปมากแล้ว แม้รถจะยังไม่ใช้ของท่าน แต่เป็นของท่าน จงอย่าลืมว่า ท่านซื้อตอนมีเงินมีงาน ท่านไม่รู้อนาคตหรอกว่า ท่านจะตกงาน หรือมีปัญหาการเงินการเงินเกิด จงย้ำว่า ท่านแค่ยังไม่มีเงินจ่าย ยังไม่มีเงินงาน ท่านไม่มีเจตนาหนีหรือคดโกง  แต่ท่านอยากขอแค่ความเข้าใจที่ถูกต้อง ท่านต้องการแค่เวลากับโอกาส.... ที่สำคัญ คือ ท่านจำเป็นต้องใช้รถในการทำงานหาเงินและใช้ในการเดินทางของตนเองและครอบครัว นี่คือสิ่งที่ท่านต้องบอกกับศาล ตำรวจ และคนอื่นๆให้เข้าใจ แล้วจงมีความรับผิดชอบ ถ้าได้รับโอกาส นั่น คือทางออกที่ดี